J.I.B. Computer Group — จากผู้จัดจำหน่ายสินค้า IT และ E-Commerce สู่ "ผู้นำการให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจร"
- AI Transformation Readiness
- 27 เม.ย.
- ยาว 13 นาที
อัปเดตเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

J.I.B. Computer Group มุ่งเปลี่ยนผ่านจากผู้จัดจำหน่ายสินค้า IT และ E-Commerce ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจร โดยมีการลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, IoT, Big Data และ Blockchain รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง JIB AI และ JIB Solution พัฒนาโดยบริษัท JIBSoft เพื่อตอบโจทย์การบริหารธุรกิจและความต้องการของลูกค้า พร้อมก้าวสู่ผู้นำ AI-Driven Digital Transformation in IT and E-Commerce
ภาพรวมธุรกิจ (Business Overview)
ความท้าทายที่สำคัญ (Challenges)
เป้าหมายและผลลัพธ์ (Goals and Outcomes)
Part 1: AI TRANSFORMATION READINESS
การประเมินระดับ AI Transformation Readiness ก่อนและหลังปี 2024 สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงดังนี้

J.I.B. พัฒนา AI Transformation Readineess จากระดับ Experimenting (2.6/5) ไปสู่ Optimizing (4.1/5) อย่างมีนัยสำคัญ โดยมี ความพร้อมด้านเทคโนโลยีและเครื่องมือ ความพร้อมด้านข้อมูล และความพร้อมของบุคลากร เป็นปัจจัยหลักที่เร่งการทรานส์ฟอร์ม องค์กรได้ดำเนินทำ Digital Transformation อย่างมีกลยุทธ์ ส่งผลให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า พร้อมเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาด IT และ E-Commerce ผ่านความร่วมมือระดับโลกและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร จนก้าวสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจร ความสำเร็จนี้ทำให้ J.I.B. เป็นต้นแบบขององค์กรที่ปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
Part 2: NEW GROWTH ENGINE
แผนการสร้างการเติบโตครั้งใหม่สำหรับอนาคตของ J.I.B. Computer Group

การสร้าง New Growth Engine ของ J.I.B. Computer Group เกิดจากการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลผ่าน Disruption, Disruptive Innovation, Disruptive Technology และการพัฒนา Platform Business ที่ล้ำสมัยเพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการนำนวัตกรรมดิจิทัล เช่น AI, Big Data, และ IoT เข้ามาเสริมศักยภาพในด้านการบริการลูกค้า การบริหารซัพพลายเชน และการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ พร้อมทั้งขยายสู่ธุรกิจแพลตฟอร์มผ่าน JIBSoft เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรและ SMEs การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ J.I.B. รักษาความเป็นผู้นำในตลาด IT และ E-Commerce แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล
อ่านต่อ
Part 3: TRANSFORMER MAP
แผนที่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ J.I.B. Computer Group

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา J.I.B. ได้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม ไม่เพียงแต่สามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม แต่ยังคงสามารถสร้างเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเสริมความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการสร้างโอกาสและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ
อ่านต่อ
Part 4: BUSINESS MODEL CANVAS
การพัฒนนาโมเดลธุรกิจใหมของ J.I.B. Computer Group

1. Customer Segments (กลุ่มลูกค้า)
J.I.B. Computer Group ให้บริการแก่ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้า B2C, B2B, ภาครัฐ, อุตสาหกรรมเฉพาะ และ กลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ควบคู่ไปกับเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาด IT และ E-Commerce รวมถึงธุรกิจการให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจร
อ่านต่อ
2. Value Propositions (การเสนอคุณค่า)
บริษัทสร้างความแตกต่างและมอบคุณค่าให้กับทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าองค์กรผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ในอุตสาหกรรม IT และ E-Commerce พร้อมด้วยการให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจร ประกอบด้วย
ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูง (High-Quality Products & Services)
เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย (Advanced Technology)
บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform Services)
ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalized Customer Experience)
ความสะดวกและการเข้าถึงง่าย (Convenience and Accessibility)
ความยั่งยืน (Sustainability)
3. Customer Relationships (ความสัมพันธ์กับลูกค้า)
มุ่งเน้นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกกลุ่ม ด้วยกลยุทธ์และเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มความภักดี (Customer Loyalty) และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) โดยครอบคลุมทั้งลูกค้ารายย่อย (B2C) และลูกค้าองค์กร (B2B)
อ่านต่อ
4. Channels (ช่องทาง)
ใช้ช่องทางการสื่อสารและจัดจำหน่ายหลากหลายรูปแบบเพื่อเข้าถึงลูกค้า ทั้งกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป (B2C) และกลุ่มองค์กร (B2B) โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบ Omnichannel ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ
อ่านต่อ
5. Revenue Streams (แหล่งรายได้)
J.I.B. Computer Group สร้างแหล่งรายได้จากหลายช่องทาง โดยมุ่งเน้นการผสมผสานระหว่างธุรกิจดั้งเดิมและธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาโซลูชันใหม่เพื่อสร้างความหลากหลายของรายได้
อ่านต่อ
6. Key Activities (กิจกรรมสำคัญ)
มุ่งเน้นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถทางธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างความแตกต่างในตลาด และตอบสนองความต้องการของลูกค้า กิจกรรมสำคัญเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการซัพพลายเชน การบริหารสินค้าคงคลัง การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ไปจนถึงการการบริการหลังการขายและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและพันธมิตรในระยะยาว
อ่านต่อ
7. Key Resources (ทรัพยากรสำคัญ)
ใช้ทรัพยากรสำคัญหลากหลายประเภทเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการดำเนินธุรกิจและสร้างความแตกต่าง พร้อมทั้งสร้างโอกาสใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล ทรัพยากรเหล่านี้ครอบคลุมด้าน เทคโนโลยี ทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน แบรนด์ ฐานข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญา ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน
อ่านต่อ
8. Key Partnerships (พันธมิตรสำคัญ)
บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในหลายภาคส่วน เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ ขยายผลิตภัณฑ์และบริการ และเพิ่มโอกาสในการเติบโตระยะยาว ความร่วมมือนี้ครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี การจัดจำหน่าย นวัตกรรม และ ความยั่งยืน ส่งผลให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมขยายฐานลูกค้า B2C และ B2B อย่างต่อเนื่อง การพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างโอกาสใหม่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
อ่านต่อ
9. Cost Structure (โครงสร้างต้นทุน)
การบริหารโครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพของ J.I.B. Computer Group ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทลง 15%-20% ในปี 2024 ผ่านการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้โดยมีอัตรากำไร (Profit Margin) เพิ่มขึ้นมากถึง 10% สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
อ่านต่อ
Part 5: DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS
ถอดรหัสการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ความสำเร็จของ J.I.B. Computer Group ด้วย DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS

ส่วนที่ 1: ตั้งหลักทรานส์ฟอร์ม
01. Define New Core Business
การประเมินธุรกิจหลักใหม่
J.I.B. Computer Group ได้ขยายขอบเขตจากการเป็น "ผู้จัดจำหน่ายสินค้า IT และ E-Commerce" สู่การเป็น "ผู้นำในการให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจร (Comprehensive Digital Solutions Provider)" เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาด IT และดิจิทัลทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาค
02. Define New Value Proposition
นำเสนอข้อเสนอทางคุณค่าใหม่ของธุรกิจ
มุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชันด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้าในยุคดิจิทัล ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย
อ่านต่อ
03. Define New Business Model
ออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่
J.I.B. Computer Group ได้มีพัฒนารูปแบบธุรกิจครอบคลุมทั้งการผสานช่องทางการจัดจำหน่ายแบบ Omnichannel การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล การมอบโซลูชัน SaaS และการสนับสนุนความยั่งยืน ผสานการใช้เทคโนโลยี AI, Big Data, และ Predictive Analytics ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ตลาดและการบริหารจัดการ ทำให้บริษัทสามารสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล
5 โมเดลธุรกิจของ J.I.B.
ส่วนที่ 2: สร้างความสามารถใหม่ด้านดิจิทัล
04. Identify Existing Digital Capabilities
ประเมินขีดความสามารถด้านดิจิทัลในปัจุบัน
ก่อนการดำเนินการทรานส์ฟอร์มธุรกิจในปี 2015 บริษัทมีการใช้ระบบไอที การบูรณาการข้อมูล และระบบอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม
05. Develop New Digital Capabilities
กำหนดขีดความสามารถใหม่ด้านดิจิทัล
AI-Powered Predictive Analytics เพื่อคาดการณ์แนวโน้มการซื้อของลูกค้าในเชิงลึก ปรับปรุง JIB AI Chatbot ให้สามารถตอบคำถามเชิงลึก พร้อมให้คำแนะนำที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalized Recommendations) ได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความเร็วในการตอบคำถามลูกค้า 30% และลดอัตราการตอบคำถามผิดพลาดลง 20%
Customer Experience Management (CXM) ด้วยระบบ Omnichannel Integration รวมช่องทางการสื่อสารและการจัดจำหน่ายทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวผ่าน Omnichannel Platform ลดอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้าลง 20% และเพิ่มคะแนนความพึงพอใจลูกค้า (Customer Satisfaction Score) ขึ้น 25%
SaaS (Software as a Service) Expansion ขยายบริการ SaaS เช่น Order Management System (OMS), Warehouse Management System (WMS), และ CRM สู่ตลาด B2B ตั้งเป้าหมายให้รายได้จาก SaaS คิดเป็น 15% ของรายได้รวม
Blockchain Payment System ปรับปรุงระบบในการทำธุรกรรมเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัย ลดการร้องเรียนเรื่องธุรกรรมผิดพลาดลง 15% ภายในปีแรก
IoT-Enabled Supply Chain Management เพื่อติดตามและจัดการคลังสินค้าแบบเรียลไทม์
Digital Twin Technology เพื่อจำลองการดำเนินงานในโลกดิจิทัล ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ
06. Digital Initiatives & Roadmap
วางแผนและสร้างขีดความสามารถด้านดิจิทัลจากปัจจุบันไปสู่อนาคต
ปี 2024 ขยายข้อเสนอเพื่อรวมโซลูชันอัจฉริยะโดยผสานรวม AI และเทคโนโลยีข้อมูลขั้นสูงเพื่อเสริมพลังให้ธุรกิจบรรลุนวัตกรรมและประสิทธิภาพที่มากขึ้น อาทิ JIB AI: Business Intelligence (BI), Knowledge Management (KM) และ Customer Service (Chatbot)
ปี 2021 เปิดตัวโซลูชันแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นอัตโนมัติและใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจตามข้อมูล
ปี 2017 เริ่มให้บริการลูกค้าโดยเน้นที่การพัฒนาแพลตฟอร์มตามโครงการที่กำหนดเองและการให้คำปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การให้คำปรึกษาด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ การฝึกอบรมและเวิร์กช็อป
ปี 2016 ก่อตั้งบริษัท JIBSoft จำกัด ด้วยภารกิจในการขยายมรดกแห่งความสำเร็จของ J.I.B. Computer Group ไปสู่ขอบเขตของโซลูชันซอฟต์แวร์อัจฉริยะครบวงคจรและสนับสนุน J.I.B. Computer Group ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มอบโซลูชันเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อาทิ JESS (JIB Enterprise Software System), O2O Commerce solution, ระบบ Customer Experience Management (CXM), ระบบ Order Management System (OMS) & Warehouse Management System (WMS), การพัฒนาซอฟต์แวร์และการออกแบบ UX/UI
ปี 2015 พัฒนาระบบการควบคุมสินค้าคงคลังอัจฉริยะ สามารถควบคุมสินค้าคงคลังในระดับ SKU เพื่อให้แต่ละ SKU มีปริมาณไม่เกินจำนวนที่สามารถขายหมดภายใน 30 วัน และมีสต็อกเพียงพอต่อความต้องการอย่างแม่นยำ 95% พบว่าคำแนะนำของระบบสามารถช่วยลดต้นทุนการสั่งซื้อและการจัดเก็บได้ 4.46% และลดกระแสเงินสดที่จำเป็นสำหรับการซื้อสินค้าได้ 23.10%
ส่วนที่ 3: Transformation in Action
07. Organizational Transformation
ออกแบบการเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล
J.I.B. ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างครอบคลุมเพื่อตอบสนองความท้าทายของยุคดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ตั้งแต่การปรับปรุงวิสัยทัศน์ พันธกิจ โครงสร้างองค์กร วัฒนธรรมองค์กร ระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในกระบวนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จในระยะยาว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มุ่งเน้นการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และการเสริมความสามารถของบุคลากรในยุคดิจิทัล การดำเนินกิจกรรมเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนแปลงองค์กรให้มีความทันสมัย ยืดหยุ่น และสามารถแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านต่อ
08. Agile Strategy & Planning
เปลี่ยนกลยุทธ์และการดำเนินงานด้วยแนวคิด Agile
มุ่งเน้น ความยืดหยุ่นและความรวดเร็ว ในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม IT และ E-Commerce ผ่านกลยุทธ์ Agile ที่เน้นการเรียนรู้จากผลลัพธ์ ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ส่งผลให้องค์กรสามารถ ตัดสินใจได้ทันท่วงที ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และสร้างความสามารถในการแข่งขันใหม่ แม้ในสภาวะที่ไม่แน่นอน กลยุทธ์นี้ช่วยให้ J.I.B. สร้างโอกาสใหม่ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อ่านต่อ
09. Building Collaborative Ecosystem
สร้างระบบนิเวศใหม่ที่สร้างการมีส่วนร่วมกันระหว่างในและนอกองค์กร
J.I.B. มุ่งสร้าง ระบบนิเวศความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดดิจิทัล ผ่านการร่วมมือกับ แบรนด์ IT ชั้นนำ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัล และแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อขยายฐานลูกค้าและพัฒนานวัตกรรมด้านโซลูชันไอที นอกจากนี้ J.I.B. ยังทำงานร่วมกับ SMEs และองค์กรขนาดใหญ่ ในการพัฒนาโซลูชันเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ความร่วมมือนี้ช่วยเพิ่ม ความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรม การเข้าถึงลูกค้า และขีดความสามารถดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
อ่านต่อ
ความสำเร็จของ J.I.B. ไม่เพียงแต่สร้างคุณค่าใหม่ให้กับองค์กร แต่ยังเป็นตัวอย่างที่สำคัญสำหรับธุรกิจไทยในการปรับตัวและสร้างความได้เปรียบในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.
กรณีศึกษาการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ J.I.B. Computer Group สะท้อนถึงความสำเร็จในการปรับตัวและสร้าง New Growth Engine ที่ผสานกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงองค์กรและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างลงตัว
J.I.B. ได้สร้าง Transformer Map แผนที่ทรานสฟอร์มธุรกิจที่ชัดเจน โดยการรักษาตลาดหลัก ขยายสู่ตลาดใหม่ และพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ผ่านการนำเทคโนโลยี AI, Big Data, IoT, และ Blockchain มาใช้ในกระบวนการทำงาน เช่น ระบบ OMS, WMS และแพลตฟอร์ม JIB AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าเฉพาะบุคคล
นอกจากนี้การออกแบบ Business Model Canvas และ Digital Transformation Canvas ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่เข้มแข็งผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญ เช่น แบรนด์ IT ระดับโลก ผู้พัฒนาระบบดิจิทัล และแพลตฟอร์ม E-Commerce ส่งผลให้ J.I.B. สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล เพิ่มความพึงพอใจ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง