สนามบินชางงี (Changi Airport) — จากสนามบิน สู่ "ผู้นำศูนย์กลางนวัตกรรมและบริการดิจิทัลอัจฉริยะสำหรับผู้โดยสารและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก"
- AI Transformation Readiness
- 29 เม.ย.
- ยาว 9 นาที
อัปเดตเมื่อ 6 วันที่ผ่านมา

สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ สามารถปรับตัวจากการเป็นศูนย์กลางการบินชั้นนำ ไปสู่การเป็น "ศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก" ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI การสร้างระบบนิเวศดิจิทัล และการพัฒนาโครงการสมาร์ทซิตี้ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านประสบการณ์ผู้โดยสาร ยกระดับการเดินทางให้ไร้รอยต่อและปรับแต่งให้ตอบโจทย์รายบุคคล เพิ่มความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบิน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนเป้าหมายสมาร์ทซิตี้ของสิงคโปร์
ภาพรวมธุรกิจ (Business Overview)
ความท้าทายที่สำคัญ (Challenges)
เป้าหมายและผลลัพธ์ (Goals and Outcomes
Part 1: AI TRANSFORMATION READINESS
สนามบินชางงีได้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 ถึงปี 2024 ผ่านการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลในทุกมิติ ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, IoT, และ SaaS มาใช้ ทำให้สนามบินชางงีเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในหลายด้าน แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากการนำ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ จนได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก
การประเมินระดับ AI Transformation Readiness ก่อนและหลังปี 2024 สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงดังนี้

Changi Airport ได้ยกระดับ AI Transformation Readinees จาก Experimenting (2.75/5) สู่ Optimizing (4.39/5) ผ่านการใช้ AI, IoT, Big Data และ Automation เพื่อปรับปรุง ประสบการณ์ผู้โดยสาร การบริหารสนามบิน และการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับ การพัฒนาบุคลากร AI และความปลอดภัยไซเบอร์ นอกจากนี้ ยังสร้าง Business Model ใหม่ ขยายสู่ ธุรกิจดิจิทัล โลจิสติกส์ และโซลูชันอัจฉริยะ เช่น ระบบจัดการสนามบิน บริการข้อมูลการเดินทาง และโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เสริมความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและธุรกิจใหม่อย่างยั่งยืน
Part 2: NEW GROWTH ENGINE
แผนการสร้างการเติบโตครั้งใหม่สำหรับอนาคตของ Changi Airport

สนามบินชางงี (CAG) ได้พัฒนา New Growth Engine โดยมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัย ในปี 2022 รายได้จากบริการดิจิทัลใหม่เติบโตขึ้นกว่า 30% และรายได้รวมจากระบบ e-Commerce ของสนามบินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 22% พร้อมทั้งผลลัพธ์ที่ไม่ใช่ด้านการเงิน เช่น คะแนนความพึงพอใจของผู้โดยสารเพิ่มจาก 85% ในปี 2021 เป็น 90% ในปี 2023 และการปล่อยคาร์บอนลดลง 12% ด้วยการใช้ IoT และระบบพลังงานอัจฉริยะ นอกจากนี้ การขยายบริการ Enterprise Digital Hub (EDH) ไปยังสนามบินในภูมิภาค เช่น มาเลเซียและอินโดนีเซีย ยังช่วยสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสในตลาดใหม่ CAG ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจอย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้ธุรกิจอื่นนำไปประยุกต์ใช้เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
อ่านต่อ
Part 3: TRANSFORMER MAP
แผนที่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ Changi Aiport

สนามบินชางงี (CAG) ได้ทรานส์ฟอร์มเพื่อยกระดับธุรกิจในทุกมิติ โดยเริ่มจากการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจหลักในตลาดเดิมด้วยการนำ AI และ Lean Management มาปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความพึงพอใจของผู้โดยสาร และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก นอกจากนี้ CAG ยังขยายธุรกิจหลักไปยังตลาดใหม่ เช่น การนำเสนอ Enterprise Digital Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดิม ขณะเดียวกันการสร้างบริการดิจิทัลใหม่ เช่น โปรแกรมสมาชิกและการปรับประสบการณ์ผู้โดยสารแบบเฉพาะตัว ได้เพิ่มความจงรักภักดีของผู้โดยสารและรายได้เสริมจากตลาดเดิม สุดท้าย การเข้าสู่ตลาดใหม่ผ่านโซลูชันดิจิทัล ได้เปลี่ยนบทบาทของ CAG จากผู้ให้บริการสนามบินเป็นผู้นำโซลูชันดิจิทัลระดับโลก พร้อมสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในระยะยาว
อ่านต่อ
Part 4: BUSINESS MODEL CANVAS
การพัฒนนาโมเดลธุรกิจใหมของ Changi Airport

1. Customer Segments (กลุ่มลูกค้า)
กลุ่มลูกค้าของ CAG ได้แก่ ผู้โดยสารทุกประเภท ตั้งแต่นักเดินทางเพื่อธุรกิจไปจนถึงนักท่องเที่ยว ครอบคลุมทั้งสายการบิน ร้านค้าปลีก แบรนด์สินค้า และสนามบินอื่น ๆ ที่ใช้บริการ SaaS
2. Value Propositions (การเสนอคุณค่า)
มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นและน่าจดจำสำหรับผู้โดยสาร โดยผสมผสานเทคโนโลยี AI และ IoT เพื่อปรับแต่งบริการเฉพาะบุคคล และนำเสนอระบบ e-Commerce เพื่อขยายประสบการณ์การช้อปปิ้งจากสนามบินสู่ช่องทางออนไลน์
3. Customer Relationships (ความสัมพันธ์กับลูกค้า)
สร้างความสัมพันธ์ผ่านโปรแกรมสมาชิก Changi Rewards การสื่อสารแบบสองทาง และการให้บริการเฉพาะบุคคล เช่น การช่วยเหลือผู้โดยสารแบบเรียลไทม์
4. Channels (ช่องทาง)
ใช้ช่องทางการเข้าถึงลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่สนามบินที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ไปจนถึงแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชัน Changi App และเว็บไซต์ รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อเชื่อมต่อกับผู้โดยสารและพันธมิตร
5. Revenue Streams (แหล่งรายได้)
รายได้ทั้งหมดในปี FY2023/24 เติบโต 45% เป็น 2,727 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 72,902 ล้านบาท) โดยความหลากหลายในแหล่งรายได้ช่วยให้ CAG มีความมั่นคงทางการเงิน พร้อมทั้งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้โดยสารอย่างยั่งยืน
อ่านต่อ
6. Key Activities (กิจกรรมสำคัญ)
สนามบินชางงีดำเนินกิจกรรมหลัก เช่น การบริหารจัดการสนามบิน การให้บริการผู้โดยสาร การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และการบริหารโครงการริเริ่มดิจิทัล
7. Key Resources (ทรัพยากรสำคัญ)
ทรัพยากรสำคัญของ CAG ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Enterprise Digital Hub ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และฐานข้อมูลขนาดใหญ่
8. Key Partnerships (พันธมิตรสำคัญ)
ร่วมมือกับพันธมิตรหลายประเภท เช่น บริษัทเทคโนโลยี หน่วยงานภาครัฐ สายการบิน และผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมและการดำเนินงาน
อ่านต่อ
9. Cost Structure (โครงสร้างต้นทุน)
ต้นทุนหลัก ของ CAG มาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การบำรุงรักษาเทคโนโลยีดิจิทัล ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และการบริหารจัดการโครงการด้านความยั่งยืน โดยมีค่าใช้จ่ายต่อผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 35 SGD ต่อผู้โดยสาร 1 คน (ประมาณ 900 บาท)
การขยายสนามบินและการสร้าง Terminal ใหม่ เพื่อเพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารถึง 50 ล้านคนต่อปี ช้งบประมาณการลงทุนกว่า 10,000 ล้าน SGD (270,000 ล้านบาท)
การลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์ เช่น Jewel Changi Airport และศูนย์ค้าปลีก
มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลกว่า 1,500 ล้าน SGD (40,500 ล้านบาท) สำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Enterprise Digital Hub (EDH), ChangiVerse, และโครงการ SaaS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนในระยะยาว
ลดต้นทุนรวม ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Big Data, IoT, AI, และ Predictive Analytics ช่วยลดต้นทุนปฏิบัติการลงได้ 12% ต่อปี
เพิ่มประสิทธิภาพ การลงทุนในระบบดิจิทัลช่วยปรับปรุงการดำเนินงานและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ใช้งบประมาณกว่า 500 ล้าน SGD (13,500 ล้านบาท) สำหรับโครงการด้านความยั่งยืน ช่วยลดต้นทุนพลังงานลงได้ 15% ต่อปีจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการ Net-Zero Carbon ช่วยสร้างความได้เปรียบในระยะยาว
Part 5: DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS
ถอดรหัสการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ความสำเร็จของ Changi Airport ด้วย DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS

สนามบินชางงี ได้ทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ตั้งแต่การนิยามธุรกิจหลักใหม่ด้วยการสร้าง Enterprise Digital Hub (EDH) เพื่อเร่งการพัฒนาบริการดิจิทัล การเพิ่มคุณค่าด้วยบริการเฉพาะบุคคลผ่าน AI และ IoT การพัฒนาศักยภาพดิจิทัลใหม่ เช่น Generative AI และ Predictive Analytics ตลอดจนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อสร้างวัฒนธรรม Agile และเปิดโอกาสให้พนักงานทดลองนวัตกรรมใหม่ นอกจากนี้ สนามบินชางงี ยังสร้างระบบนิเวศความร่วมมือกับพันธมิตรในภาคเทคโนโลยีและภาครัฐ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงเพิ่มรายได้จากบริการดิจิทัลใหม่กว่า 30% แต่ยัง ลดต้นทุนการดำเนินงานลง 12% พร้อม เพิ่มความพึงพอใจของผู้โดยสารเป็น 90% ในปี 2023
ส่วนที่ 1: ตั้งหลักทรานส์ฟอร์ม
01. Define New Core Business
การประเมินธุรกิจหลักใหม่
สนามบินชางงีได้ปรับบทบาทไม่ใช่แค่เป็น 'ศูนย์กลางการบินชั้นนำของโลก' โดยพัฒนาธุรกิจจากการให้บริการสนามบินสู่การเป็น 'ผู้นำด้านเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลสำหรับการจัดการสนามบิน' ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล Enterprise Digital Hub (EDH) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและสร้างธุรกิจใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต
02. Define New Value Proposition
นำเสนอข้อเสนอทางคุณค่าใหม่ของธุรกิจ
การมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นด้วยบริการเฉพาะบุคคล การช้อปปิ้งออนไลน์แบบไร้รอยต่อ และการจัดการสนามบินอย่างมีประสิทธิภาพด้วยแนวคิด Personlaised | Stress-free | Positively Surprising
03. Define New Business Model
ออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่
สนามบินชางงีได้พัฒนารูปแบบธุรกิจเดิมที่เน้นค่าธรรมเนียมสนามบินโดยเสริมรายได้ผ่านบริการดิจิทัลและโซลูชันเทคโนโลยีที่หลากหลาย พร้อมทั้งสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงไป การพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่เหล่านี้ช่วยเพิ่มรายไดอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายได้รวมในปี FY2023/24 เติบโต 45% แตะ 2,727 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 72,902 ล้านบาท) พร้อมตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว.
6 โมเดลธุรกิจของ Changi Airport
ส่วนที่ 2: สร้างความสามารถใหม่ด้านดิจิทัล
04. Identify Existing Digital Capabilities
ประเมินขีดความสามารถด้านดิจิทัลในปัจุบัน
ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางผู้โดยสาร
ระบบจัดการสัมภาระอัตโนมัติ (Automated Baggage System)
ระบบ e-Commerce และ Changi Rewards
05. Develop New Digital Capabilities
กำหนดขีดความสามารถใหม่ด้านดิจิทัล
การใช้เทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ DIVA มุ่งเน้นการใช้ปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของสนามบิน SINGAPORE TOURISM BOARD
เปิดตัว "ChangiVerse" ในปี 2023 CAG ด้วยการพัฒนาประสบการณ์ในโลกเสมือนจริง (Metaverse) ที่นำเสนอประสบการณ์สนามบินชางงีในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมกลุ่มใหม่และเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้
เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Generative AI สำหรับบริการลูกค้า Predictive Analytics เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ และ IoT สำหรับการติดตามทรัพยากรแบบเรียลไทม์
ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Extended Reality, Machine Learning, Internet of Things (IoT) และ Edge Computing เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของสนามบิน
06. Digital Initiatives & Roadmap
วางแผนและสร้างขีดความสามารถด้านดิจิทัลจากปัจจุบันไปสู่อนาคต
ปี 2023 การเปิดตัว ChangiVerse แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์สนามบินในรูปแบบเสมือนจริง สร้างความตื่นเต้นและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้โดยสาร
ปี 2022 สร้าง Smart Airport Ecosystem ผ่าน IoT และระบบอัตโนมัติ ติดตั้งเซ็นเซอร์ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสัมภาระ การปรับการใช้พลังงาน และการติดตามอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น รถเข็นสัมภาระ
ปี 2020 ปรับปรุงโปรแกรม Changi Rewards และ Changi Airport Loyalty Data Platform เพื่อวิเคราะห์และเสนอโปรโมชันที่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้โดยสาร สามารถปรับแต่งข้อเสนอพิเศษตามพฤติกรรมการใช้จ่ายของสมาชิก ทำให้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในปีแรก
ปี 2019 Changi East Development Program (Terminal 5 Digitalization)รวมเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Digital Twin, Automation, และ Predictive Maintenance ในการออกแบบและก่อสร้างเทอร์มินัลใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืน
ปี 2018 ใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมของผู้โดยสาร เช่น การจัดการความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน และปรับปรุงการจัดการสัมภาระ
ปี 2017 ปรับปรุงเว็บไซต์ ChangiAirport.com เพื่อให้บริการข้อมูลและฟีเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล เช่น การแนะนำเส้นทาง การจองบริการ และโปรโมชันแบบเรียลไทม์
ส่วนที่ 3: Transformation in Action
07. Organizational Transformation
ออกแบบการเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทั
จัดตั้งหน่วยงาน DIVA (Digital, Innovation, Ventures & Analytics) ซึ่งเป็นศูนย์ดิจิทัล (Digital Factory) เฉพาะด้านนวัตกรรมและดิจิทัลในปี 2016
จัดตั้ง "Accelerator Office" เพื่อสนับสนุนไอเดียจากพนักงานและพัฒนาเป็นโซลูชันดิจิทัลที่ใช้งานได้จริง ตัวอย่างเช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับบริการฉุกเฉินแบบเรียลไทม์ และการขยายแพลตฟอร์มการตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์
การพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัลของพนักงาน (Digital Skills Upskilling) ปี 2021 ในปี 2019 CAG ได้ประกาศลงทุน 10 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในระยะเวลา 2 ปี เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของพนักงานกว่า 2,000 คน การลงทุนนี้มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การใช้เครื่องมือดิจิทัล และการบริหารโครงการ
การนำแนวทางการทำงาน '4D+i' มาใช้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 CAG ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยใช้แนวทาง '4D+i' ซึ่งหมายถึงการทำงานปกติสี่วันต่อสัปดาห์ ('4D') และการอุทิศวันศุกร์เพื่อกิจกรรมนวัตกรรม ('i') แนวทางนี้ช่วยให้พนักงานมีเวลาพัฒนาไอเดีย ปรับปรุงแนวคิด และสร้างความสามารถใหม่ ๆ ผ่านโปรแกรมต่าง ๆ เช่น การบรรยายสั้น ๆ การแข่งขันไอเดีย และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนนวัตกรรม
การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ (Centers of Excellence) เช่น DIVA สำหรับการทดลองดิจิทัล วิทยาศาสตร์ข้อมูล การทำงานอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ การพัฒนา Low Code และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ศูนย์เหล่านี้มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมภายในองค์กร
ใช้แพลตฟอร์ม Atlassian เช่น Jira Software, Confluence และ Jira Service Management Cloud เพื่อเสริมสร้างการทำงานร่วมกัน เพิ่มความโปร่งใส และปรับปรุงการตอบสนองของทีมงาน
08. Agile Strategy & Planning
เปลี่ยนกลยุทธ์และการดำเนินงานด้วยแนวคิด Agile
Changi Service DNA ประกอบด้วย Personalised | Stress-free | Positively Surprising จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการให้บริการโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกกิจกรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางให้ทีมบริการโต้ตอบกับลูกค้าในทุกจุดสัมผัสได้อย่างเหนือระดับ
Fail Fast, Learn Faster แนวคิด "ล้มเหลวเร็ว เรียนรู้เร็ว" ช่วยให้ CAG สามารถสำรวจโซลูชันใหม่ ๆ โดยลดความกลัวต่อความล้มเหลว เช่น โครงการ Changi Accelerator Program สนับสนุนสตาร์ทอัพทั้งภายในและภายนอกองค์กรในการทดลองไอเดียใหม่ ๆ เช่น ระบบติดตามสัมภาระด้วย AI ที่ได้รับการปรับปรุงสี่ครั้งก่อนเปิดตัวสำเร็จในปี 2023
เน้นการพัฒนาโครงการในรอบสั้น ๆ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดตัว Enterprise Digital Hub (EDH) ที่ช่วยให้สามารถทดลองและขยายฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ในการพัฒนา ChangiVerse ทีมงานใช้โมเดลการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถทดสอบและอัปเดตฟังก์ชันได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ส่งผลให้ลดระยะเวลาเข้าสู่ตลาดได้กว่า 30%
DIVA (Digital, Innovation, Ventures & Analytics) การมอบอำนาจให้ทีมข้ามสายงาน ทีมงานได้รับอิสระในการตัดสินใจและทดลองโดยไม่มีข้อจำกัดจากลำดับชั้นมากเกินไป เช่น การใช้ AI เพื่อจัดการการไหลเวียนของผู้โดยสาร ทำให้ประสิทธิภาพการจัดการคิวเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2022
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องผ่าน Feedback Loops โดยใช้ข้อมูลและระบบมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์เพื่อวัดผลและปรับกลยุทธ์ เช่น ในโครงการ Smart Terminal Operations Program CAG ใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อเฝ้าติดตามสถานะอุปกรณ์ ส่งผลให้อัตราการหยุดชะงักของอุปกรณ์ลดลง 15% ในปี 2021
09. Building Collaborative Ecosystem
สร้างระบบนิเวศใหม่ที่สร้างการมีส่วนร่วมกันระหว่างในและนอกองค์กร
โครงการ ChangiVerse (2023) พันธมิตร: The Sandbox, Microsoft, Epic Games
Digital Twin (2022) พันธมิตร: Dassault Systèmes, Autodesk, Siemens
KrisConnect (2021) พันธมิตร: Singapore Airlines (SIA), Amadeus, Sabre, Accenture
iShopChangi พันธมิตร: Lazada และ Shopee: ขยายการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ไปยังตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้Alibaba Cloud: ให้บริการคลาวด์และการจัดการฐานข้อมูลสำหรับ e-commerce Mastercard และ Visa: ร่วมพัฒนาระบบการชำระเงินออนไลน์
Changi Nature Trail (2021) พันธมิตร: Singapore National Parks Board (NParks), Wildlife Reserves Singapore (WRS), Shell
Data Collaboration (2020) พันธมิตร: Google Cloud, Microsoft Azure, Amadeus:, SITA
Changi Accelerator Program (2019) พันธมิตร: Singapore Management University (SMU), Plug and Play Tech Center, SATS
Smart Nation Initiative พันธมิตร: GovTech Singapore, Grab, Gojek, SP Group
Smart Baggage Tracking System พันธมิตร: SITA, Amazon Web Services (AWS), IBM: ใช้ AI และ Blockchain สำหรับติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์
Sustainability Partnerships พันธมิตร: WWF Singapore, CDL (City Developments Limited), UN SDG Partnership Platform: เชื่อมโยงโครงการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
Net-Zero Carbon (เป้าหมายปี 2050) พันธมิตร: Shell, TotalEnergies, International Air Transport Association (IATA), DNV GL: ประเมินและรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
ความสำเร็จของสนามบินชางงีนี้ชี้ให้เห็นว่า Digital Transformation ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์สำหรับการเพิ่มรายได้ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจทุกประเภทในการสร้างการเติบโตใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ สนามบินชางงี จึงได้ยกย่องเป็นองค์กรต้นแบบการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2024 ที่สามารถสร้างการเติบโตและผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งอุตสาหกรรมการบินและชุมชนระดับโลก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง