top of page

สนามบินชางงี (Changi Airport) — จากสนามบิน สู่ "ผู้นำศูนย์กลางนวัตกรรมและบริการดิจิทัลอัจฉริยะสำหรับผู้โดยสารและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก"

อัปเดตเมื่อ 24 มิ.ย.


J.I.B. Computer Group Case Study: AI Transformation in IT & E-Commerce to a digital-first company, leveraging AI & innovation for business growt
จากสนามบิน สู่ "ผู้นำศูนย์กลางนวัตกรรมและบริการดิจิทัลอัจฉริยะสำหรับผู้โดยสารและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก"

สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ สามารถปรับตัวจากการเป็นศูนย์กลางการบินชั้นนำ ไปสู่การเป็น "ศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก" ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI การสร้างระบบนิเวศดิจิทัล และการพัฒนาโครงการสมาร์ทซิตี้ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านประสบการณ์ผู้โดยสาร ยกระดับการเดินทางให้ไร้รอยต่อและปรับแต่งให้ตอบโจทย์รายบุคคล เพิ่มความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบิน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนเป้าหมายสมาร์ทซิตี้ของสิงคโปร์ 

สารบัญ


Background

ภาพรวมธุรกิจ (Business Overview)

J.I.B. Computer Group's the official website: https://www.jib.co.th
รางวัล Future Enterprise of the Year จาก IDC ในปี 2024

สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ (Changi Airport Group - CAG) ได้รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะหนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุด โดยเป็นที่รู้จักจากการมอบประสบการณ์ผู้โดยสารที่ยอดเยี่ยมและบริการระดับพรีเมียม ในปี 2024 ได้รับรางวัล "Future Enterprise of the Year" จากเวที IDC Future Enterprise Awards ซึ่งยกย่องความสำเร็จในการเป็นผู้นำและเป็นองค์กรต้นแบบด้าน Digital Transformation อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ความท้าทายที่สำคัญ (Challenges)

สนามบินชางงีต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในเส้นทางการทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) เพื่อคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ด้านหลัก ดังนี้:


  1. ความคาดหวังของผู้โดยสารที่เปลี่ยนไป

    • ผู้โดยสารต้องการประสบการณ์การเดินทางที่ ไร้รอยต่อ และ ปรับแต่งเฉพาะบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละคน

    • การเพิ่มขึ้นของความนิยมในแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการจองตั๋วและบริการเสริม ทำให้ต้องปรับตัวเพื่อให้บริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้โดยสารยุคใหม่

  2. ความซับซ้อนของการดำเนินงาน

    • การจัดการปริมาณผู้โดยสารจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน พร้อมทั้งรักษามาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการ

    • ระบบสัมภาระและการจัดการบริการแบบเรียลไทม์ที่ซับซ้อน ต้องการการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพ

  3. การแข่งขันระดับภูมิภาคและระดับโลก

    • สนามบินในภูมิภาค เช่น ฮ่องกงและอินชอน ลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อดึงดูดสายการบินและผู้โดยสาร สร้างแรงกดดันให้ชางงีต้องรักษาความเป็นผู้นำ

    • การแข่งขันด้านการบริการและนวัตกรรมกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้โดยสารและพันธมิตรทางธุรกิจ

  4. แรงกดดันด้านความยั่งยืน

    • Carbon Footprint (รอยเท้าคาร์บอน): ในฐานะศูนย์กลางการเดินทางขนาดใหญ่ สนามบินชางงีมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับสูง การสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและนวัตกรรมกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนเป็นความท้าทายสำคัญ

    • การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและโครงการสีเขียว: สนามบินต้องลงทุนในเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน ส่งเสริมการปฏิบัติที่ยั่งยืน และพัฒนาโครงการสีเขียวเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    • การปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม: ชางงีต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เช่น การจัดการขยะอย่างยั่งยืน การสนับสนุนการเดินทางแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้

สนามบินชางงี ใช้ความท้าทายเหล่านี้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกในด้านการบริการ พร้อมสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโต ความยั่งยืน และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมการบิน

เป้าหมายและผลลัพธ์ (Goals and Outcomes)

Changi Airport Group's digital transformation
Changi Airport Group's digital transformation

สนามบินชางงีกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคตและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว โดยมุ่งเน้น การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร และการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรม เป้าหมายเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสนามบินในการยกระดับ ประสบการณ์ผู้โดยสาร ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และสร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องผ่านการพัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่ล้ำสมัย ประกอบด้วย:


  1. ยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสาร (Enhance Passenger Experience): สนามบินชางงีมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ไร้รอยต่อและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผ่านการประยุกต์ใช้ AI, IoT และ Generative AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและพัฒนาบริการที่ตรงความต้องการของผู้โดยสาร เช่น การลดระยะเวลารอคิว การปรับแต่งโปรโมชัน และการพัฒนาช่องทางดิจิทัล

    ChangiVerse
    ChangiVerse
  2. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Streamline Operations): ด้วยการใช้ Predictive Analytics และระบบอัตโนมัติ สนามบินตั้งเป้าลดต้นทุนการดำเนินงานต่อผู้โดยสารลงอย่างน้อย 15% พร้อมเพิ่มความแม่นยำในการจัดการสัมภาระและบริหารทรัพยากรในชั่วโมงเร่งด่วน

    Changi Aiport Mobile App
  3. กระตุ้นการเติบโตของรายได้ (Drive Revenue Growth): สนามบินวางเป้าหมายเพิ่มรายได้จากช่องทางใหม่ เช่น แพลตฟอร์ม e-Commerce, โฆษณาดิจิทัล และบริการ SaaS ที่สามารถขยายสู่สนามบินอื่นในภูมิภาค เพื่อสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลายและเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน

  4. เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต (Future-Proof the Organization): สนามบินมุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น Enterprise Digital Hub (EDH) เพื่อสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและรองรับการขยายตัวในอนาคต พร้อมทั้งเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืน เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน 15% ภายใน 5 ปี และการบรรลุ Net Zero Carbon ภายในปี 2050

  5. สร้างความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบิน (Establish Industry Leadership): สนามบินตั้งเป้าเป็นต้นแบบในการทำ Digital Transformation ของอุตสาหกรรมการบินระดับโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาด พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการและการบริหารจัดการ


Part 1: AI TRANSFORMATION READINESS


สนามบินชางงีได้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 ถึงปี 2024 ผ่านการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลในทุกมิติ ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, IoT, และ SaaS มาใช้ ทำให้สนามบินชางงีเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในหลายด้าน แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากการนำ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ จนได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก


การประเมินระดับ AI Transformation Readiness ก่อนและหลังปี 2024 สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงดังนี้


AI TRANSFORMATION READINESS LEVEL: สนามบินชางงี สิงคโปร์
AI TRANSFORMATION READINESS LEVEL ก่อนและหลังการดำเนินการของสนามบินชางงี สิงคโปร์


Part 2: AI TRANSFORMATION CANVAS


AI TRANSFORMATION ​CANVAS ของสนามบินชางงี สิงคโปร์
AI TRANSFORMATION ​CANVAS ของสนามบินชางงี สิงคโปร์
Changi Airport ได้ยกระดับ AI Transformation Readinees จาก Experimenting (2.75/5) สู่ Optimizing (4.39/5) ผ่านการใช้ AI, IoT, Big Data และ Automation เพื่อปรับปรุง ประสบการณ์ผู้โดยสาร การบริหารสนามบิน และการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับ การพัฒนาบุคลากร AI และความปลอดภัยไซเบอร์ นอกจากนี้ ยังสร้าง Business Model ใหม่ ขยายสู่ ธุรกิจดิจิทัล โลจิสติกส์ และโซลูชันอัจฉริยะ เช่น ระบบจัดการสนามบิน บริการข้อมูลการเดินทาง และโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เสริมความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและธุรกิจใหม่อย่างยั่งยืน

🚀 Accelerate: สร้างแผนธุรกิจและแผนปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนด้วย AI แผน AI Transformation & Business Plan ฉบับสมบูรณ์



Part 3: NEW GROWTH ENGINE

แผนการสร้างการเติบโตครั้งใหม่สำหรับอนาคตของ Changi Airport


NEW GROWTH ENGINE: Changi Airport
NEW GROWTH ENGINE แผนการสร้างการเติบโตครั้งใหม่สำหรับอนาคตของ Changi Airport
สนามบินชางงี (CAG) ได้พัฒนา New Growth Engine โดยมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัย ในปี 2022 รายได้จากบริการดิจิทัลใหม่เติบโตขึ้นกว่า 30% และรายได้รวมจากระบบ e-Commerce ของสนามบินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 22% พร้อมทั้งผลลัพธ์ที่ไม่ใช่ด้านการเงิน เช่น คะแนนความพึงพอใจของผู้โดยสารเพิ่มจาก 85% ในปี 2021 เป็น 90% ในปี 2023 และการปล่อยคาร์บอนลดลง 12% ด้วยการใช้ IoT และระบบพลังงานอัจฉริยะ นอกจากนี้ การขยายบริการ Enterprise Digital Hub (EDH) ไปยังสนามบินในภูมิภาค เช่น มาเลเซียและอินโดนีเซีย ยังช่วยสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสในตลาดใหม่ CAG ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจอย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้ธุรกิจอื่นนำไปประยุกต์ใช้เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

อ่านต่อ

1. Disruption: โต้คลื่นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการบิน

 

  • การขยายบริการดิจิทัล: สนามบินชางงีมุ่งเน้นการให้บริการดิจิทัลที่สามารถนำเสนอให้สนามบินอื่นในภูมิภาค เช่น บริการ Enterprise Digital Hub (EDH) ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนาบริการดิจิทัลสำหรับตลาดเทคโนโลยีสำหรับสนามบินทั่วโลก โดยในปี 2023 มีมูลค่ากว่า 13.3 พันล้านดอลลาร์ (454,110 ล้านบาท) และคาดว่าจะเติบโตปีละ 8.8% จนถึงปี 2030

  • แพลตฟอร์ม OTA (Online Travel Agency) เช่น Expedia และ Booking.com ได้เข้ามามีบทบาทในการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งจองเที่ยวบิน ที่พัก และบริการเสริมอื่นๆ ส่งผลให้สนามบินต้องหาวิธีการสร้างความแตกต่าง สนามบินชางงีรับมือโดยการพัฒนาบริการเสริม เช่น การช้อปปิ้งปลอดภาษีผ่าน e-Commerce และ การเชื่อมต่อผู้โดยสารกับบริการท่องเที่ยวในสิงคโปร์


2. Disruptive Innovation: สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เปลี่ยนเกม


  • พฤติกรรมผู้โดยสารที่เปลี่ยนไป: ผู้โดยสารมีความต้องการประสบการณ์การเดินทางที่ ไร้รอยต่อ (Seamless) และ เฉพาะบุคคล (Personalized) มากขึ้น โดยเฉพาะหลังการระบาดของ COVID-19 พฤติกรรมการจองเที่ยวบินออนไลน์เพิ่มขึ้น 62% ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2022 (IATA) ชางงีจึงนำ AI มาสร้างประสบการณ์ผู้โดยสารแบบ Personalized รวมถึง บริการ Fast Check-In, Self-Bag Drop, และระบบอัตโนมัติในทุกจุดสัมผัส 

  • การใช้บริการแบบดิจิทัลของผู้โดยสารในชางงีเพิ่มขึ้น 40% หลังการเปิดตัวระบบดิจิทัลใหม่ในปี 2021 

  • การพัฒนาประสบการณ์ผู้โดยสารด้วย Generative AI: Generative AI ถูกนำมาใช้เพื่อสร้าง Personalized Journey เช่น การแนะนำสินค้า Duty-Free ที่เหมาะสมกับแต่ละผู้โดยสารผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรม รายได้จาก Duty-Free Online เพิ่มขึ้น 22% ในปี 2022 หลังการใช้ AI ความพึงพอใจผู้โดยสาร (Customer Satisfaction Index) เพิ่มขึ้น 25% ในปีเดียวกัน 

  • การเปิดตัวบริการใหม่เพื่อรองรับตลาดใหม่ เช่น การออกแบบแพ็กเกจการเดินทางสำหรับผู้โดยสาร Budget Travelers และการพัฒนาบริการขนส่งโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจขนาดกลางและเล็กในภูมิภาค


3. Disruptive Technology: ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในโลกการบิน


  • การใช้ AI และ Predictive Analytics: CAG นำ AI มาช่วยคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารและบริหารจัดการทรัพยากร เช่น ช่องตรวจคนเข้าเมือง การจัดการสัมภาระ และการบริการในพื้นที่สนามบิน 

  • จากการใช้ Predictive Analytics คาดการณ์ความหนาแน่นของผู้โดยสารที่ช่วยลดความล่าช้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้ ต้นทุนลดลงถึง 10% ต่อปี และ ลดระยะเวลารอคิว (Queue Time) ที่จุดตรวจคนเข้าเมืองได้ถึง 30% IoT 

  • Real-Time Monitoring การติดตั้งเซ็นเซอร์ IoT ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสัมภาระ ลดอัตราการสูญหายของกระเป๋าลงถึง 95% 

  • เซ็นเซอร์ IoT ยังช่วยติดตามการใช้พลังงานในสนามบิน ลดการใช้ไฟฟ้าลง 12% ต่อปี


4. Platform Business: การสร้างธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม


  • การขยายเข้าสู่ e-Commerce เปิดตัวแพลตฟอร์มช้อปปิ้ง Duty-Free ออนไลน์ที่รองรับทั้งผู้โดยสารในสนามบินและผู้ที่ไม่ได้เดินทาง โดยในปี 2022 รายได้จาก Duty-Free e-Commerce อยู่ที่ 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 520 ล้านบาท) 

  • โครงการ Smart City Initiatives และ Net-Zero Carbon CAG ร่วมมือกับรัฐบาลสิงคโปร์ในโครงการ Smart Nation ด้วยการลงทุนในโครงการสมาร์ทซิตี้ของ CAG  เช่น ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะ และการจัดการพลังงานเพื่อลดคาร์บอน คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสิงคโปร์ในปี 2023 (ประมาณ 2,600 ล้านบาท) 

  • ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนลง 50% ภายในปี 2030 และเป็น Net-Zero Carbon ภายในปี 2050


Part 4: TRANSFORMER MAP

แผนที่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ Changi Aiport


TRANSFORMER MAP: Changi Airport
TRANSFORMER MAP แผนที่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ Changi Airport
สนามบินชางงี (CAG) ได้ทรานส์ฟอร์มเพื่อยกระดับธุรกิจในทุกมิติ โดยเริ่มจากการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจหลักในตลาดเดิมด้วยการนำ AI และ Lean Management มาปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความพึงพอใจของผู้โดยสาร และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก นอกจากนี้ CAG ยังขยายธุรกิจหลักไปยังตลาดใหม่ เช่น การนำเสนอ Enterprise Digital Hub ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดิม ขณะเดียวกันการสร้างบริการดิจิทัลใหม่ เช่น โปรแกรมสมาชิกและการปรับประสบการณ์ผู้โดยสารแบบเฉพาะตัว ได้เพิ่มความจงรักภักดีของผู้โดยสารและรายได้เสริมจากตลาดเดิม สุดท้าย การเข้าสู่ตลาดใหม่ผ่านโซลูชันดิจิทัล ได้เปลี่ยนบทบาทของ CAG จากผู้ให้บริการสนามบินเป็นผู้นำโซลูชันดิจิทัลระดับโลก พร้อมสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในระยะยาว

อ่านต่อ

สนามบินชางงีวางแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างผลกระทบเชิงเปลี่ยนแปลง (Transformational Impact) ครอบคลุม 4 มิติหลัก ได้แก่


1. Core Business + Current Market: เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจหลักในตลาดเดิม

  • ใช้ AI และ Lean Management ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ที่ช่วยการเพิ่มประสิทธิภาพช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสาร ลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับสนามบินระดับโลก

  • ลดค่าใช้จ่ายต่อผู้โดยสารลง 12% ในปี 2022 จากการนำ Predictive Analytics มาใช้ในกระบวนการจัดการทรัพยากร 

  • ลดระยะเวลารอคิวที่จุดตรวจคนเข้าเมืองลง 30% ในชั่วโมงเร่งด่วน ผ่านระบบตรวจสอบแบบอัตโนมัติ 

  • เพิ่มคะแนน Net Promoter Score (NPS) ของสนามบินจาก 75% ในปี 2021 เป็น 82% ในปี 2023 

  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับสนามบินระดับโลก เช่น สนามบินฮ่องกงและสนามบินอินชอน


2. Core Business + New Market: ขยายธุรกิจหลักเข้าสู่ตลาดใหม่

  • ขยายบริการสนามบิน เช่น ระบบ Enterprise Digital Hub (EDH) ไปยังสนามบินอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตของการเดินทางทางอากาศสูงถึง 6.5% ต่อปี การขยายตลาดใหม่นี้ช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดิม และเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาค

  • รายได้ใหม่จากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,200 ล้านบาท) ในปี 2023 

  • สนามบินพันธมิตร เช่น สนามบินในมาเลเซียและเวียดนาม ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านการใช้ระบบดิจิทัลของ CAG 

  • ส่วนแบ่งการตลาดในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 15% ในปี 2023 


3. New Core Business + Current Market: สร้างบริการใหม่ในตลาดเดิม

  • เพิ่มบริการดิจิทัลใหม่ ช่วยเพิ่มความจงรักภักดีของผู้โดยสาร และเสริมสร้างรายได้เสริมจากตลาดเดิม

  • สมาชิกใหม่ในระบบ Changi Rewards เพิ่มขึ้น 30% ในปี 2022 ด้วยโปรแกรมสมาชิกที่ใช้ AI ในการปรับแต่งสิทธิประโยชน์ให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกแต่ละคน

  • รายได้จากบริการ Duty-Free e-Commerce เพิ่มขึ้น 22% ในปี 2022 จากการรองรับพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

  • อัตราการกลับมาใช้บริการซ้ำ (Customer Retention Rate) เพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 75% ในปี 2023 


4. New Core Business + New Market: พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ในตลาดใหม่

  • เปิดตัว SaaS (Software as a Service) สำหรับการจัดการสนามบินสำหรับสนามบินอื่นทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยี AI และ IoT เพื่อช่วยปรับปรุงการดำเนินงานของสนามบินพันธมิตรทั่วโลก ซึ่งตลาดใหม่นี้มีมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตถึง 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 

  • สนามบินที่ใช้ SaaS ของ CAG ลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้เฉลี่ย 10-15% ต่อปี 

  • รายได้จาก SaaS คิดเป็น 20% ของรายได้รวมในตลาดใหม่ ในปี 2023 


Part 5: BUSINESS MODEL CANVAS

การพัฒนนาโมเดลธุรกิจใหมของ Changi Airport


Business Model Canvas: Changi Airport
Business Model Canvas ของ Changi Airport

1. Customer Segments (กลุ่มลูกค้า)

กลุ่มลูกค้าของ CAG ได้แก่ ผู้โดยสารทุกประเภท ตั้งแต่นักเดินทางเพื่อธุรกิจไปจนถึงนักท่องเที่ยว ครอบคลุมทั้งสายการบิน ร้านค้าปลีก แบรนด์สินค้า และสนามบินอื่น ๆ ที่ใช้บริการ SaaS


2. Value Propositions (การเสนอคุณค่า)

มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นและน่าจดจำสำหรับผู้โดยสาร โดยผสมผสานเทคโนโลยี AI และ IoT เพื่อปรับแต่งบริการเฉพาะบุคคล และนำเสนอระบบ e-Commerce เพื่อขยายประสบการณ์การช้อปปิ้งจากสนามบินสู่ช่องทางออนไลน์


3. Customer Relationships (ความสัมพันธ์กับลูกค้า)

สร้างความสัมพันธ์ผ่านโปรแกรมสมาชิก Changi Rewards การสื่อสารแบบสองทาง และการให้บริการเฉพาะบุคคล เช่น การช่วยเหลือผู้โดยสารแบบเรียลไทม์


4. Channels (ช่องทาง)

ใช้ช่องทางการเข้าถึงลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่สนามบินที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ไปจนถึงแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชัน Changi App และเว็บไซต์ รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อเชื่อมต่อกับผู้โดยสารและพันธมิตร


5. Revenue Streams (แหล่งรายได้)

รายได้ทั้งหมดในปี FY2023/24 เติบโต 45% เป็น 2,727 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 72,902 ล้านบาท) โดยความหลากหลายในแหล่งรายได้ช่วยให้ CAG มีความมั่นคงทางการเงิน พร้อมทั้งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้โดยสารอย่างยั่งยืน

อ่านต่อ

  1. ค่าบริการการบิน (Airport Service Fees - 49% ของรายได้ทั้งหมด) 

    • รายได้จากค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร การลงจอด และการจอดเครื่องบิน 

    • รายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้น 53% ในปี FY2023/24 เป็น 1,344 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 35,940 ล้านบาท) การฟื้นตัวจากจำนวนผู้โดยสารและอัตราค่าบริการที่เพิ่มขึ้นมีบทบาทสำคัญ 

  2. รายได้จากการค้าปลีกและการให้เช่า (Retail and Rental Income - 38% ของรายได้ทั้งหมด)

    • รายได้จากร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และค่าเช่าพื้นที่ในสนามบินและ Jewel Changi 

    • เพิ่มขึ้น 48% ในปี FY2023/24 เป็น 1,042 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 27,094 ล้านบาท) 

    • การฟื้นตัวจากการใช้จ่ายของผู้โดยสารและการปรับปรุงสัญญาเช่า 

  3. บริการอื่น ๆ ในสนามบิน (Other Airport Services - 9% ของรายได้ทั้งหมด) 

    • รายได้จากบริการเสริม เช่น การจัดการสัมภาระ ระบบโฆษณา และผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวผ่าน Changi Recommends 

    • การใช้ IoT และ AI ในการขนย้ายสัมภาระช่วยลดข้อผิดพลาดกว่า 95% 

  4. รายได้จาก SaaS และ e-Commerce (SaaS and e-Commerce) 

    • บริการโซลูชันดิจิทัล เช่น SaaS เพื่อบริหารจัดการสนามบิน 

    • รายได้จากการเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม e-Commerce กับร้านค้าปลอดภาษี เพิ่มยอดขายออนไลน์ขึ้น 20% 

  5. รายได้จากการโฆษณา (Advertising Revenue) 

    • การสร้างรายได้จากพื้นที่โฆษณาในสนามบินกว่า 300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 7,800 ล้านบาท) 

  6. รายได้จากโครงการสิ่งแวดล้อม (Environmental Initiatives)

    •  การจัดการและซื้อขายเครดิตคาร์บอนสำหรับพันธมิตร 

    • ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในปี FY2023/24 คิดเป็น 30% ของเป้าหมายระยะยาว Net-Zero Carbon

  7. รายได้จากการให้บริการรถไฟ (Jewel Changi Train Services) เพิ่มรายได้ให้กลุ่ม CAG อีก 5% จากบริการเสริมที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง 

  8. รายได้จากการให้คำปรึกษาระหว่างประเทศ (Consultancy Revenue) ผ่าน Changi Airports International (CAI) ในการให้บริการคำปรึกษา เช่น สนามบินในอียิปต์ แองโกลา และเวียดนาม


6. Key Activities (กิจกรรมสำคัญ)

สนามบินชางงีดำเนินกิจกรรมหลัก เช่น การบริหารจัดการสนามบิน การให้บริการผู้โดยสาร การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และการบริหารโครงการริเริ่มดิจิทัล


7. Key Resources (ทรัพยากรสำคัญ)

ทรัพยากรสำคัญของ CAG ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Enterprise Digital Hub ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และฐานข้อมูลขนาดใหญ่


8. Key Partnerships (พันธมิตรสำคัญ)

ร่วมมือกับพันธมิตรหลายประเภท เช่น บริษัทเทคโนโลยี หน่วยงานภาครัฐ สายการบิน และผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมและการดำเนินงาน

อ่านต่อ

  • ผู้ผลิตสินค้า IT ระดับโลก (Global IT Manufacturers) เช่น Microsoft, Intel, Dell, Lenovo, ASUS, HP, Huawei และ Apple ช่วยให้ J.I.B. สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม

  • พันธมิตรด้าน E-Commerce และ Marketplace (E-Commerce Platforms) เช่น Lazada, Shopee, JD Central และ Facebook Marketplace ช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่และสร้างยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์

  • ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (Logistics Providers) เช่น Kerry Express, Flash Express และ DHL เพื่อให้การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

  • พันธมิตรด้านการเงินและการชำระเงิน (Financial & Payment Partners) เช่น ธนาคารชั้นนำและผู้ให้บริการ e-Wallet อย่าง TrueMoney, Rabbit Line Pay และ ShopeePay เพิ่มตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายสำหรับลูกค้า

  • ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology Partnerships) เช่น Quicktron และบริษัทผู้พัฒนาระบบ IoT ใช้หุ่นยนต์ Autonomous Mobile Robots (AMRs) ในคลังสินค้าเพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดต้นทุน นำระบบ IoT และ AI มาช่วยในการจัดการสินค้าคงคลังและการวิเคราะห์ข้อมูล

  • พันธมิตรด้านบริการ SaaS และซอฟต์แวร์ (SaaS & Software Partners) เพื่อรองรับธุรกิจ B2B และ B2C

  • ภาคการศึกษา องค์กร และหน่วยงานภาครัฐ (Educational, Enterprise, and Government Partners) ในการให้บริการ IT Solutions และจัดอบรมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล

  • การร่วมมือกับองค์กรขนาดใหญ่และ SMEs: จัดหาโซลูชัน IT แบบครบวงจร เช่น CRM, WMS และ Carbon Credit Solutions

  • สื่อและแพลตฟอร์มโฆษณา (Media & Advertising Platforms) เช่น Google Ads, Facebook Ads และ TikTok ใช้การตลาดแบบดิจิทัลเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

  • พันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (Environmental & Sustainability Partners) พัฒนาบริการ Carbon Credit Solutions เพื่อสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ในการลดรอยเท้าคาร์บอนผ่านการจัดการคาร์บอนเครดิต


9. Cost Structure (โครงสร้างต้นทุน)

  • ต้นทุนหลัก ของ CAG มาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การบำรุงรักษาเทคโนโลยีดิจิทัล ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และการบริหารจัดการโครงการด้านความยั่งยืน โดยมีค่าใช้จ่ายต่อผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 35 SGD ต่อผู้โดยสาร 1 คน (ประมาณ 900 บาท)

  • การขยายสนามบินและการสร้าง Terminal ใหม่ เพื่อเพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารถึง 50 ล้านคนต่อปี ช้งบประมาณการลงทุนกว่า 10,000 ล้าน SGD (270,000 ล้านบาท) 

  • การลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์ เช่น Jewel Changi Airport และศูนย์ค้าปลีก

  • มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลกว่า 1,500 ล้าน SGD (40,500 ล้านบาท) สำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Enterprise Digital Hub (EDH), ChangiVerse, และโครงการ SaaS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนในระยะยาว

  • ลดต้นทุนรวม ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Big Data, IoT, AI, และ Predictive Analytics ช่วยลดต้นทุนปฏิบัติการลงได้ 12% ต่อปี 

  • เพิ่มประสิทธิภาพ การลงทุนในระบบดิจิทัลช่วยปรับปรุงการดำเนินงานและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น 

  • ใช้งบประมาณกว่า 500 ล้าน SGD (13,500 ล้านบาท) สำหรับโครงการด้านความยั่งยืน ช่วยลดต้นทุนพลังงานลงได้ 15% ต่อปีจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการ Net-Zero Carbon ช่วยสร้างความได้เปรียบในระยะยาว


Part 6: DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS

ถอดรหัสการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ความสำเร็จของ Changi Airport ด้วย DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS


DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS: Changi Airport
DIGITAL TRANSFORMATION CANVAS ของ Changi Airport
สนามบินชางงี ได้ทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ตั้งแต่การนิยามธุรกิจหลักใหม่ด้วยการสร้าง Enterprise Digital Hub (EDH) เพื่อเร่งการพัฒนาบริการดิจิทัล การเพิ่มคุณค่าด้วยบริการเฉพาะบุคคลผ่าน AI และ IoT การพัฒนาศักยภาพดิจิทัลใหม่ เช่น Generative AI และ Predictive Analytics ตลอดจนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อสร้างวัฒนธรรม Agile และเปิดโอกาสให้พนักงานทดลองนวัตกรรมใหม่ นอกจากนี้ สนามบินชางงี ยังสร้างระบบนิเวศความร่วมมือกับพันธมิตรในภาคเทคโนโลยีและภาครัฐ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงเพิ่มรายได้จากบริการดิจิทัลใหม่กว่า 30% แต่ยัง ลดต้นทุนการดำเนินงานลง 12% พร้อม เพิ่มความพึงพอใจของผู้โดยสารเป็น 90% ในปี 2023 

ส่วนที่ 1:  ตั้งหลักทรานส์ฟอร์ม


01. Define New Core Business

การประเมินธุรกิจหลักใหม่

สนามบินชางงีได้ปรับบทบาทไม่ใช่แค่เป็น 'ศูนย์กลางการบินชั้นนำของโลก' โดยพัฒนาธุรกิจจากการให้บริการสนามบินสู่การเป็น 'ผู้นำด้านเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลสำหรับการจัดการสนามบิน' ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล Enterprise Digital Hub (EDH) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและสร้างธุรกิจใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต

02. Define New Value Proposition

นำเสนอข้อเสนอทางคุณค่าใหม่ของธุรกิจ

การมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นด้วยบริการเฉพาะบุคคล การช้อปปิ้งออนไลน์แบบไร้รอยต่อ และการจัดการสนามบินอย่างมีประสิทธิภาพด้วยแนวคิด Personlaised | Stress-free | Positively Surprising

03. Define New Business Model

ออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่

สนามบินชางงีได้พัฒนารูปแบบธุรกิจเดิมที่เน้นค่าธรรมเนียมสนามบินโดยเสริมรายได้ผ่านบริการดิจิทัลและโซลูชันเทคโนโลยีที่หลากหลาย พร้อมทั้งสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงไป การพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่เหล่านี้ช่วยเพิ่มรายไดอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายได้รวมในปี FY2023/24 เติบโต 45% แตะ 2,727 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) (ประมาณ 72,902 ล้านบาท) พร้อมตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว.

6 โมเดลธุรกิจของ Changi Airport

  1. ธุรกิจค่าธรรมเนียมสนามบิน (Airport Service Fees) 

    • ยังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก โดยปรับปรุงโครงสร้างค่าธรรมเนียมเพื่อเพิ่มรายได้ รวมถึงการบริหารจัดการบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารและสายการบิน 

    • สนับสนุนโดยการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี เช่น IoT และ AI ในการบริหารสนามบิน 

  2. ธุรกิจค้าปลีกและ e-Commerce 

    • ขยายการค้าปลีกจากพื้นที่สนามบินไปสู่แพลตฟอร์ม e-Commerce เช่น iShopChangi เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถซื้อสินค้าได้ทั้งในและนอกสนามบิน 

    • การพัฒนาระบบสมาชิก Changi Rewards เพื่อเสริมสร้างความภักดีและการใช้จ่ายซ้ำของลูกค้า 

  3. แพลตฟอร์ม SaaS และบริการดิจิทัล (Digital Solutions and SaaS) 

    • เสนอแพลตฟอร์ม SaaS สำหรับการบริหารจัดการสนามบินให้กับสนามบินทั่วโลก เช่น ระบบจัดการสัมภาระและการตรวจสอบการปฏิบัติการ 

    • เพิ่มรายได้จากบริการดิจิทัล เช่น Predictive Analytics และระบบเฝ้าระวังเชิงรุก 

  4. บริการที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน (Sustainability Services) 

    • พัฒนาโครงการซื้อขายเครดิตคาร์บอนและโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน เช่น การลดการปล่อยคาร์บอนผ่านพลังงานหมุนเวียน 

    • สนับสนุนเป้าหมาย Net-Zero Carbon ด้วยบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม 

  5. ธุรกิจโฆษณาและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Advertising and Commercial Leasing) 

    • การบริหารพื้นที่โฆษณาและการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และบริการเสริมในสนามบินและ Jewel Changi 

  6. การให้คำปรึกษาด้านการบริหารสนามบิน (Airport Consultancy) 

    • ผ่าน Changi Airports International (CAI) ให้คำปรึกษาและบริการด้านการบริหารจัดการสนามบิน เช่น สนามบินในอียิปต์ แองโกลา และเวียดนา


ส่วนที่ 2:  สร้างความสามารถใหม่ด้านดิจิทัล


04. Identify Existing Digital Capabilities

ประเมินขีดความสามารถด้านดิจิทัลในปัจุบัน

  • ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางผู้โดยสาร

  • ระบบจัดการสัมภาระอัตโนมัติ (Automated Baggage System) 

  • ระบบ e-Commerce และ Changi Rewards


05. Develop New Digital Capabilities

กำหนดขีดความสามารถใหม่ด้านดิจิทัล

  • การใช้เทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ DIVA มุ่งเน้นการใช้ปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของสนามบิน SINGAPORE TOURISM BOARD 

  • เปิดตัว "ChangiVerse"  ในปี 2023 CAG ด้วยการพัฒนาประสบการณ์ในโลกเสมือนจริง (Metaverse) ที่นำเสนอประสบการณ์สนามบินชางงีในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมกลุ่มใหม่และเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้

  • เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Generative AI สำหรับบริการลูกค้า Predictive Analytics เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ และ IoT สำหรับการติดตามทรัพยากรแบบเรียลไทม์

  • ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Extended Reality, Machine Learning, Internet of Things (IoT) และ Edge Computing เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของสนามบิน


06. Digital Initiatives & Roadmap

วางแผนและสร้างขีดความสามารถด้านดิจิทัลจากปัจจุบันไปสู่อนาคต

  • ปี 2023 การเปิดตัว ChangiVerse แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์สนามบินในรูปแบบเสมือนจริง สร้างความตื่นเต้นและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้โดยสาร

  • ปี 2022 สร้าง Smart Airport Ecosystem ผ่าน IoT และระบบอัตโนมัติ ติดตั้งเซ็นเซอร์ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสัมภาระ การปรับการใช้พลังงาน และการติดตามอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น รถเข็นสัมภาระ

  • ปี 2020 ปรับปรุงโปรแกรม Changi Rewards และ Changi Airport Loyalty Data Platform เพื่อวิเคราะห์และเสนอโปรโมชันที่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้โดยสาร สามารถปรับแต่งข้อเสนอพิเศษตามพฤติกรรมการใช้จ่ายของสมาชิก ทำให้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในปีแรก

  • ปี 2019 Changi East Development Program (Terminal 5 Digitalization)รวมเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Digital Twin, Automation, และ Predictive Maintenance ในการออกแบบและก่อสร้างเทอร์มินัลใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืน

  • ปี 2018 ใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมของผู้โดยสาร เช่น การจัดการความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน และปรับปรุงการจัดการสัมภาระ

  • ปี 2017 ปรับปรุงเว็บไซต์ ChangiAirport.com เพื่อให้บริการข้อมูลและฟีเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล เช่น การแนะนำเส้นทาง การจองบริการ และโปรโมชันแบบเรียลไทม์



ส่วนที่ 3: Transformation in Action


07. Organizational Transformation

ออกแบบการเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทั

  • จัดตั้งหน่วยงาน DIVA (Digital, Innovation, Ventures & Analytics) ซึ่งเป็นศูนย์ดิจิทัล (Digital Factory) เฉพาะด้านนวัตกรรมและดิจิทัลในปี 2016 

  • จัดตั้ง "Accelerator Office" เพื่อสนับสนุนไอเดียจากพนักงานและพัฒนาเป็นโซลูชันดิจิทัลที่ใช้งานได้จริง ตัวอย่างเช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับบริการฉุกเฉินแบบเรียลไทม์ และการขยายแพลตฟอร์มการตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์

  • การพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัลของพนักงาน (Digital Skills Upskilling) ปี 2021 ในปี 2019 CAG ได้ประกาศลงทุน 10 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในระยะเวลา 2 ปี เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของพนักงานกว่า 2,000 คน การลงทุนนี้มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การใช้เครื่องมือดิจิทัล และการบริหารโครงการ

  • การนำแนวทางการทำงาน '4D+i' มาใช้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 CAG ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยใช้แนวทาง '4D+i' ซึ่งหมายถึงการทำงานปกติสี่วันต่อสัปดาห์ ('4D') และการอุทิศวันศุกร์เพื่อกิจกรรมนวัตกรรม ('i') แนวทางนี้ช่วยให้พนักงานมีเวลาพัฒนาไอเดีย ปรับปรุงแนวคิด และสร้างความสามารถใหม่ ๆ ผ่านโปรแกรมต่าง ๆ เช่น การบรรยายสั้น ๆ การแข่งขันไอเดีย และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนนวัตกรรม

  • การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ (Centers of Excellence) เช่น DIVA สำหรับการทดลองดิจิทัล วิทยาศาสตร์ข้อมูล การทำงานอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ การพัฒนา Low Code และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ศูนย์เหล่านี้มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมภายในองค์กร

  • ใช้แพลตฟอร์ม Atlassian เช่น Jira Software, Confluence และ Jira Service Management Cloud เพื่อเสริมสร้างการทำงานร่วมกัน เพิ่มความโปร่งใส และปรับปรุงการตอบสนองของทีมงาน


08. Agile Strategy & Planning

เปลี่ยนกลยุทธ์และการดำเนินงานด้วยแนวคิด Agile

  • Changi Service DNA ประกอบด้วย Personalised | Stress-free | Positively Surprising จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการให้บริการโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกกิจกรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางให้ทีมบริการโต้ตอบกับลูกค้าในทุกจุดสัมผัสได้อย่างเหนือระดับ

  • Fail Fast, Learn Faster แนวคิด "ล้มเหลวเร็ว เรียนรู้เร็ว" ช่วยให้ CAG สามารถสำรวจโซลูชันใหม่ ๆ โดยลดความกลัวต่อความล้มเหลว เช่น โครงการ Changi Accelerator Program สนับสนุนสตาร์ทอัพทั้งภายในและภายนอกองค์กรในการทดลองไอเดียใหม่ ๆ เช่น ระบบติดตามสัมภาระด้วย AI ที่ได้รับการปรับปรุงสี่ครั้งก่อนเปิดตัวสำเร็จในปี 2023

  • เน้นการพัฒนาโครงการในรอบสั้น ๆ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดตัว Enterprise Digital Hub (EDH) ที่ช่วยให้สามารถทดลองและขยายฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

  • ในการพัฒนา ChangiVerse ทีมงานใช้โมเดลการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถทดสอบและอัปเดตฟังก์ชันได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ส่งผลให้ลดระยะเวลาเข้าสู่ตลาดได้กว่า 30% 

  • DIVA (Digital, Innovation, Ventures & Analytics) การมอบอำนาจให้ทีมข้ามสายงาน ทีมงานได้รับอิสระในการตัดสินใจและทดลองโดยไม่มีข้อจำกัดจากลำดับชั้นมากเกินไป เช่น การใช้ AI เพื่อจัดการการไหลเวียนของผู้โดยสาร ทำให้ประสิทธิภาพการจัดการคิวเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2022 

  • การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องผ่าน Feedback Loops โดยใช้ข้อมูลและระบบมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์เพื่อวัดผลและปรับกลยุทธ์ เช่น ในโครงการ Smart Terminal Operations Program CAG ใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อเฝ้าติดตามสถานะอุปกรณ์ ส่งผลให้อัตราการหยุดชะงักของอุปกรณ์ลดลง 15% ในปี 2021 


09. Building Collaborative Ecosystem

สร้างระบบนิเวศใหม่ที่สร้างการมีส่วนร่วมกันระหว่างในและนอกองค์กร

  • โครงการ ChangiVerse (2023) พันธมิตร: The Sandbox, Microsoft, Epic Games

  • Digital Twin (2022) พันธมิตร: Dassault Systèmes, Autodesk, Siemens

  • KrisConnect (2021) พันธมิตร: Singapore Airlines (SIA), Amadeus, Sabre, Accenture

  • iShopChangi พันธมิตร: Lazada และ Shopee: ขยายการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ไปยังตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้Alibaba Cloud: ให้บริการคลาวด์และการจัดการฐานข้อมูลสำหรับ e-commerce Mastercard และ Visa: ร่วมพัฒนาระบบการชำระเงินออนไลน์ 

  • Changi Nature Trail (2021) พันธมิตร: Singapore National Parks Board (NParks), Wildlife Reserves Singapore (WRS), Shell

  • Data Collaboration (2020) พันธมิตร: Google Cloud, Microsoft Azure, Amadeus:, SITA

  • Changi Accelerator Program (2019) พันธมิตร: Singapore Management University (SMU), Plug and Play Tech Center, SATS

  • Smart Nation Initiative พันธมิตร: GovTech Singapore, Grab, Gojek, SP Group

  • Smart Baggage Tracking System พันธมิตร: SITA, Amazon Web Services (AWS), IBM: ใช้ AI และ Blockchain สำหรับติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์ 

  • Sustainability Partnerships พันธมิตร: WWF Singapore, CDL (City Developments Limited), UN SDG Partnership Platform: เชื่อมโยงโครงการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

  • Net-Zero Carbon (เป้าหมายปี 2050) พันธมิตร: Shell, TotalEnergies, International Air Transport Association (IATA), DNV GL: ประเมินและรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม 


ความสำเร็จของสนามบินชางงีนี้ชี้ให้เห็นว่า Digital Transformation ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์สำหรับการเพิ่มรายได้ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจทุกประเภทในการสร้างการเติบโตใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ สนามบินชางงี จึงได้ยกย่องเป็นองค์กรต้นแบบการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2024 ที่สามารถสร้างการเติบโตและผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งอุตสาหกรรมการบินและชุมชนระดับโลก

พร้อมหรือยังที่จะสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ให้กับองค์กรของคุณ?

ปลดล็อกการเติบโตในอนาคต ก้าวสู่ผู้นำในการเปลี่ยนผ่าน AI อย่างมั่นใจ และเร่งความสำเร็จของคุณตั้งแต่วันนี้


🚀 Accelerate: สร้างแผนธุรกิจและแผนปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนด้วย AI แผน AI Transformation & Business Plan ฉบับสมบูรณ์



🧭 AI Transformation Executive Leadership Program

หลักสูตร In-House Training ทรานส์ฟอร์มธุรกิจในยุค AI สำหรับผู้บริหาร เตรียมความพร้อมองค์กรสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนด้วยแนวทางที่เป็นระบบในการนำ AI มาใช้งาน โดยออกแบบเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน (AI Transformation Journey) อย่างครอบคลุม ผ่านกระบวนการเชิงกลยุทธ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ผสมผสานระหว่างมุมมองเชิงปฏิบัติและเครื่องมือที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อผลักดันความสำเร็จทางธุรกิจผ่านการใช้ AI อย่างแท้จริง


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • .International Data Corporation (IDC). (2024). Future Enterprise of the Year | Enterprise Digital Hub to Power & Accelerate Digital Transformation by Changi Airport Group (Singapore).

  • International Data Corporation (IDC). (2024). Future Enterprise Awards 2024 Winners - Regional Winners Description.

  • Changi Airport Group. (2023). Enterprise Digital Hub to Power & Accelerate Digital Transformation. 

  • Changi Airport Group. (2024). Changi Airport Group Annual Report Annual Report 2023/2024.

  • Changi Airport Group. (2023). Changi Airport Group Annual Report Annual Report 2022/2023. 

  • Statista. (2023). Global Airport IT Market Size from 2022 to 2030. 

  • Yahoo Finance. (2024). Changi Airport Group Reports FY2023/24 Financial Results. R

  • Singapore Ministry of Transport. (2023). Changi Airport Terminal 5 Development Project. 

  • Forbes Technology Council. (2024). Emerging Digital Trends in Aviation: AI, IoT, and Predictive Analytics.

  • Business Model Canvas: The Toolkit to Design Disruptive Companies.

  • International Air Transport Association (IATA). (2024). Aviation Trends and Recovery Analysis Post-COVID-19. 

  • Singapore Green Plan. (2023). Sustainability Goals for Singapore’s Aviation Industry. 

  • McKinsey & Company. (2023). The Role of Digital Transformation in the Travel and Aviation Industry. 

  • ChangiVerse. (2023). Changi Airport’s Metaverse Initiative Overview. 

  • Changi Airport’s Post-COVID Recovery Strategy and Financial Performance. 

  • World Economic Forum. (2023). The Future of Airports: Sustainable and Digital Transformation Trends. 

  • Airports Council International (ACI). (2024). Changi Airport Sustainability and Operational Excellence Report 2023.


bottom of page